การเกษตรกรรมคือหนึ่งสิ่งของอุตสาหกรรมพื้นฐานในจังหวัดอากิตะที่ผู้คนเก็บเกี่ยวผักผลไม้มากมายในช่วงฤดูใบไม้พลิ ช่วงหนาวในอากิตะเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานซึ่งทุกอย่างที่ปกคลุมไปด้วยหิมะตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน ผักเกือบทั้งหมดไม่สามารถที่จะเก็บเกี่ยวได้ในช่วงฤดูหนาว เพราะฉะนั้นจึงทำให้ชาวอากิตะดั่งเดิมนั้นมีการเก็บตุ่นอาหารเป็นจำนวนมากซึ่งพวกเขาสามารถสนุกกับช่วงหนาวอันยาวนานได้
ขั้นตอนพื้นฐานในการถนอมอาหาร
พวกเขาทำการถนอมอาหารเพื่อไม่ให้มันเน่าเปื่อยมีอยู่ด้วยกันสองวิธี ซึ่งวิธีที่ 1 คือการทำให้อาหารแห้งหรือตาก โดยจะทำการโยนมันลงไปใส่ในเกลือและทำการตากมัน วิธีที่ 2 คือการหมักพวกมัน จังหวัดอากิตะมีประเพณีและการหมักอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งคล้ายกับการทำโยเกริท์และแอลกอฮอล์ที่สามารถเก็บไว้ได้นาน
อิบูริคาโคะ : การถนอมอาหารในอากิตะ
รูปแบบของอาหารที่ถูกถนอมที่เป็นที่นิยมรับประทานกันในอากิตะก็คือ ของดอง ในภาษาท้องถิ่นมันเรียกว่า “ก๊ากโกะ” อิบูริก๊ากโกะ ซึ่งหมายถึงของดองที่รมควันซึ่งเป็นที่นิยมโดยเฉพาะ อิบูริก๊ากโกะ ทำจากหัวไชเท้าญี่ปุ่น ในการทำ ขั้นตอนแรกนำหัวไชเท้าไปแควนในห้องเพื่อทำการตากและจากนั้นทำการรมควัน หัวไชเท้าที่ตากจะมีกลิ่นแรงแต่รสชาติอร่อย
ต่อมาเป็นการนำหัวไชเท้าไปหมัก ในการหมักคนที่นี่เขาจะใช้รำข้าวเป็นส่วนผสมในการหมักซึ่งรำข้าวที่ได้จากการสีมาจะนำมาใช้ในการหมัก พวกเขาผสมมันเข้ากับข้าวมอลล์ซึ่งเป็นเบคทีเรียชนิดนึงที่ใช้ในการหมัก หัวไชเท้าเปลี่ยนตัวกลายเป็น ก๊ากโกะ หลังจากปล่อยทิ้งไว้
วิธีการกิน “อิบูริก๊ากโกะ”
วัฒนธรรม การกินอิบูริก๊ากโกะของชาวบ้านท้องถิ่นหรือของหมักดองจะกินกับข้าวสำหรับมื้ออาหารที่เรียบง่าย อิบูริก๊ากโกะเป็นที่นิยมกับเหล้าญี่ปุ่นหรือไวน์ จนทุกวันนี้มันได้กลายเป็นที่นิยมในการกินคู่กลับครีมชีส การผสมผสานกันของ อิบูริก๊ากโกะกับครีมชีสก็เป็นที่นิยมไปทั่วไม่ใช่แค่อากิตะ